วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

รีวิว iPhone X

สรุปง่ายๆ iPhone X ควรค่าแก่การซื้อหรือไม่!!
Apple เปิดตัว iPhone X หน้าจอไร้ขอบที่สาวกต่างรอกันมาอย่างยาวนาน
เมื่อไปลองเล่น Galaxy S8 ก็พบว่า หน้าจอไร้ขอบ (อ่ะๆ ขอบบางละกัน) นี่มันแจ่มจริงๆ มุมมองมันกว้างขึ้นเยอะจนอยากจะได้มา แต่ติดที่เดิมว่าใช้ iPhone 6s เลยรอดู iPhone จาก Apple ก่อนดีกว่า ตอนนี้หลายๆ คนอาจจะเริ่มลังเลแล้วว่า iPhone X น่าซื้อรึเปล่านะ?


iPhone X ถือว่าเป็น iPhone ที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่ Apple เคยออกแบบและทำมา หน้าจอไร้ขอบขนาด 5.8 นิ้ว (แต่มีติ่งด้านบน) ง่ายต่อการใช้งาน และพอดีกับการใช้งานด้วยมือเดียวแต่ได้หน้าจอที่ขนาดใหญ่กว่ารุ่น Plus ขอบด้านข้างของเครื่องเป็นสแตนเลสสตีลด้านหลังเป็นกระจก จากเดิมที่เป็นโลหะทั้งหมด การออกแบบในครั้งนี้ดูดีเลยทีเดียว

ซอฟท์แวร์
ครั้งแรกของ iPhone ที่มาพร้อมกับการควบคุมแบบใหม่ที่ไม่มีปุ่มโฮมอีกต่อไป โดยจะมีการใช้งานดังนี้
  • ใช้การแตะหน้าจอเพื่อเปิดเครื่อง
  • ปัดหน้าจอขึ้นเพื่อเข้าสู่หน้าโฮมสกรีน
  • ปัดหน้าจอขึ้นค้างไว้เพื่อเปิดใช้งาน Multitasking
  • เรียกใช้ Control Center ได้โดยการปัดขอบด้านบนฝั่งขวาของรอยบากลงมา
  • เรียกใช้ Notification Center ได้โดยการปัดขอบด้านบนฝั่งซ้ายของรอยบากลงมา
นอกจากนี้ยังสามารถสลับแอปที่ใช้งานได้โดยการปัดไปทางซ้าย-ขวา ที่ขีดๆ ด้านล่างได้อีกด้วย

ฮาร์ดแวร์
iPhone X (รวมถึง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus) มาพร้อมชิปประมวลผล Apple A11 Bionic จัดเป็นชิปเซ็ตที่แรงที่สุดในหมู่บรรดาสมาร์ทโฟนทุกค่ายในตอนนี้ ในส่วนของกล้องนั้นก็มาพร้อม Portrait Mode แบบใหม่ กันสั่นแบบฮาร์ดแวร์ทั้งสองตัว (OIS) และโมดูลลสำหรับถ่าย Telephoto นั้นก็มีรูรับแสงที่กว้าง f/2.4 กว้างกว่า iPhone 8 Plus ที่มีรูรับแสง f/2.8
แต่จุดที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนคือ Face ID หรือระบบความปลอดภัยแบบใหม่ของ Apple ถึงแม้ว่าดูแล้วอาจจะไม่ว้าวอะไรเพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีแบรนด์อื่นทำออกมาแล้ว แต่ Apple ยืนยันว่า Face ID ของ iPhone X นั้นแตกต่างออกไป มีความปลอดภัยสูงกว่ามาก ไม่สามารถหลอกได้ด้วยรูปถ่ายเหมือนบางค่าย และเซ็นเซอร์ 3D นี้ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง Animoji น่ารักๆ ได้อีกด้วย
Apple ได้พัฒนาหน้าจอขึ้นนไปอีกระดับกับ Super Retina Display ซึ่งใช้หน้าจอ OLED ความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซล ความหนาแน่น 459 ต่อนิ้ว ซึ่งเป็น iPhone ที่มีความละเอียดหน้าจอมากที่สุดเท่าที่ Apple เคยทำมา
สรุป
สำหรับผู้ใช้งาน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่เพิ่งซื้อเครื่องใหม่มา ยังไม่ต้องรีบเปลี่ยนก็ได้ เนื่องด้วยการดีไซน์แบบเดิมและความแรงของชิปประมวลผลก็ยังใช้งานได้อย่างเหลือๆ อาจจะรอสัก 1 ปี เผื่อว่า Apple จะสามารถจัดการกับรอยบากด้านบนหน้าจอได้ดีกว่านี้ครับ